วันที่ 4 สิงหาคม 2560 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ผู้แทนสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.คงศักดิ์ บุญสื่อสุวรรณ ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภ.จว.ชลบุรี เจ้าหน้าที่สืบสวน ภ.จว.ชลบุรี แถลงจับกุมตัวนายชู ฉีฟง อายุ 35 ปี ชาวจีน พร้อมพวกชาวไทยอีก 8 คน รวม 9 คน ของกลางธนบัตรปลอม 12,625 ฉบับ รวม 1,262,600 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทย 42 ล้านบาท อุปกรณ์บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม 9 ใบ เครื่องคัดลอกข้อมูล 1 เครื่อง เครื่องตรวจนับตรวจสอบธนบัตร 6 เครื่อง รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง แฟ้มเอกสารธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ 2 แฟ้ม
สืบเนื่องจากมีการจับกุมตัวนายชู ฉีฟง พร้อมกับพวกชาวไทยในครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีการสืบทราบว่ามีการนำธนบัตรปลอมชนิดดอลลาร์มาจำหน่ายในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเมืองไทยจำนวนมากจึงได้ทำการสืบสวนหาข่าวเรื่ยมาจนสามารถติดตามสืบสวนจับกุมตัวนายชู ฉีฟง ชาวจีนได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บาวละมุง จ.ชลบุรี พร้อมกับพวกชาวไทย 4 คน นำตัวมาขยายผลสามารถติดตามจำกุมเพิ่มได้อีก 5 คน รวม 9 คน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพยอมรับว่าได้ทำการซื้อธนบัตรปลอมมาในราคาฉบับละ 1000 บาท แล้วนำมาขายให้กับลูกค้าในราคาฉบับละ 1,200-1,400 บาท ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ยกแก็งค์ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่จับกุมได้เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยได้ทำการตรวจสอบธนบัตรทั้งหมดพบว่าเป็นของปลอม จึงดำเนินคดีกับนายชู ฉีฟง พร้อมกับพวกในข้อหา ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรรัฐบาลต่างประเทศ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมหรือของแปลง โดยการกระทำเกี่ยวกับเงินตราธนบัตรหรือสิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลต่างประเทศออกใช้หรืออำนาจออกใช้ นอกจากนี้นายชู ฉีฟง ยังถูกดำเนินคดีทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนใดส่วนหนึ่ง เติมหรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใดๆในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่แท้จริง ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้สิ่งใดๆอันรู้ว่าเป็นของปลอมแปลงขึ้น และมีเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์สำหรับปลอมแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ดำเนินคดีต่อไป
ด้านเจ้าหน้าที่ United States Secret Service สถานฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ซื้อธนบัตรในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นธนบัตรปลอม ซึ่งสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองในเบื้องต้นสังเกตที่ธนบัตร หากเป็นของจริงเนื้อกระดาษจะสาก มีลายน้ำ และเมื่อพลิกธนบัตรที่ตัวเลขสีจะเปลี่ยนจากเขียวเป็นดำ
ด้านพล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า จากนี้จะทำการขยายผลการจับกุมหาต้นตอดารผลิต ซึ่งธนบัตรรุ่นนี้ได้เคยมีการตรวจยึดจับกุมผู้ต้องหาทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านมาหลายรายการแล้ว และยังมีการนำไปแลกกับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งการจับกุมเครือข่ายในครั้งนี้ถือได้ว่าสามารถยึดของกลางได้จำนวนมาก หากไม่สามารถจับกุมได้จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยและประชาชนทั่วไป
ไม่มีความคิดเห็น: