ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ประธานสภาเทศบาลเมืองศรีราชา พร้อมคณะ ได้เป็นตัวแทนของชุมชนศรีราชา/นำประธานชุมชน แหลมฟานและริมทะเล ที่เดือดร้อนกว่า400ครัวเรือน มาขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับกฎหมายล่วงล้ำลำน้ำ โดยส่งหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ขอให้ช่วยพิจารณาลดค่าปรับและค่ารายปีให้ ตามที่ได้มีการออกพระราชบัญัติในการเดินเรือในน่านน้ำไทย(ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 ที่ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่ง แม่น้ำลำคลอง และ ทะเล ให้ไปทำการแจ้งต่อกรมเจ้าท่าถึงสิ่งก่อสร้างล่วงล้ำลำน้ำและกรมเจ้าท่าอาจออกใบอนุญาตให้ใช้สิ่งล่วงล้ำลำน้ำได้โดยเรียกเก็บค่า ธรรมเนียมในอัตราตารางเมตรละไม่น้อยกว่า 500 บาท แต่ไม่เกิน10,000 บาทหรืออาจต้องทำการรื้อถอนไปในกรณีที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า หากฝ่าฝืนต้องมีโทษทางอาญาทั้งจำทั้งปรับนั้น
-บุคคลที่มีรายชื่อแนบท้ายหนังสือ นี้ ขอเรียนว่า
พวกข้า ฯ เป็นชาวตำบลศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัด ชลบุรี ได้อาศัยอยู่ในทะเลมาตั้งแต่บรรพบุรุษเป็นระยะเวลา ติดต่อกันมาหลายปีแล้วหลายชั่วอายุคนแล้ว เนื่องจากบรรพบุรุษของพวกข้าฯ เป็นชาวประมง ต้องสร้างที่พักอาศัยอยู่ในทะเล และใช้เป็นที่จอดเรือ เป็นลักษณะของประมงชายฝั่งพื้นบ้าน มีฐานะค่อนข้างยากจน แต่พอมีรายได้ หาเลี้ยงตนเองและครอบครัวเท่านั้น ไม่ ได้ร่ำรวยจากการประกอบอาชีพประมงแต่อย่างใด หากกรมเจ้าท่า ไม่ออกใบอนุญาตให้ พวกข้าฯ ก็ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ต้องย้ายออกไป หรือ หากดื้อแพ่งก็จะกลายเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายต้องโทษทางอาญา แต่หากออกใบอนุญาตให้ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่กรมเจ้าท่าเรียกเก็บถึงในอัตราตารางเมตรละไม่น้อยกว่า 500 บาทนั้น ก็เป็นอัตราที่สูงมากเกินไปกว่าฐานะของพวกข้าฯ จะรับได้เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่พวกข้าฯและครอบครัวอย่างแสนสาหัส จึงขอให้ท่านได้โปรดรับรู้ถึงความทุกข์ยากจากการออกกฎหมายดังกล่าวของประชาชนอย่างพวกข้าฯ และช่วยหาทางบรรเทาทุกข์ให้แก่พวกข้าฯ ด้วย จักเป็นพระคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ไม่มีความคิดเห็น: